รีวิว เที่ยวเกาะหลีเป๊ะกับทริปสุดคุ้ม 3 วัน 2 คืน ที่ศลิษา รีสอร์ท ในช่วง High Season

‘ทะเลเยียวยาทุกสิ่ง’ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง! เพราะงั้นหากวันใดที่เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเหงาเมื่อไหร่อยากให้ทุกคนมาเก็บกระเป๋าแล้วไปนั่งชมวิวสวยท่ามกลางน้ำใสสีครามฟังเสียงคลื่นกระทบทรายขาวกัน รีวิวนี้เราเลยขออาสาพาทุกคนไปชมความงามแห่ง ‘เกาะหลีเป๊ะ’ ท้องทะเลที่ถูกขนานนามว่า เป็นมัลดีฟส์เมืองไทย และติดอันดับ 6 ชายหาดสวยที่สุดในโลก กับ ทริปสุดคุ้ม 3 วัน 2 คืน ในที่พักสุดฟิน ‘ศลิษา รีสอร์ท’ ในช่วง High Season จะเป็นยังไงบ้าง มาดูกัน

เกาะหลีเป๊ะรีวิววันแรก: ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ / หาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา

หลังจากเก็บกระเป๋าและจองตั๋วเรียบร้อยก็นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองที่จองไว้ในช่วงโปรโมชั่นมาลงบนสนามบินหาดใหญ่ในไฟลท์เช้าสุด ประมาณ 08.30 – 09:30 น. มาตรงจุดรวมพลตรงประตู 8 สนามบินนานาชาติหาดใหญ่สงขลาก็จะเจอกับเจ้าหน้าที่จาก ‘ไฮ หลีเป๊ะ’ เพื่อเตรียมเที่ยวกันต่อ แต่ขอบอกทริคนิดหน่อยสำหรับคนที่มาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะโดยเครื่องบินสามารถแจ้งกับทีมได้ว่า เกาะหลีเป๊ะ ที่พักที่จองไว้ชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน เพราะทีมจะช่วยหารถตู้ปรับอากาศและยกกระเป๋าพร้อมส่งคุณถึงหน้าประตูที่พักเลยทีเดียว หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็จะเริ่มเดินทางไปต่อกันที่ท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล (เกาะหลีเป๊ะจังหวัดสตูลนะ) ใช้เวลาแค่เพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที เท่านั้น

10:45 – 11:00 น. หลังจากที่เดินทางมาถึงท่าเรือปากบาราแล้วก็จะพบกับทีมพนักงานจากไฮ หลีเป๊ะที่เตรียมรอต้อนรับอยู่ จากนั้นพวกเขาจะพาไปที่อาคารท่าเรือเพื่อเช็คอินตั๋วเรือ เพื่อความรวดเร็วอย่าลืมเตรียมเงิน 220 บาท (ค่าเรือ 20 บาท และค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติ 200 บาท) และไม่ให้ท้องร้องระหว่างทางจนหมดความฟิน ขอแนะนำให้แวะทานอาหารก่อนหรือซื้ออาหารที่ 7-11 ใกล้สำนักงานไฮหลีเป๊ะ หากช้ามไปที่เกาะหลีเป๊ะแล้วถึงจะมี 7-11 เหมือนกัน แต่ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย

11:30 น. มุ่งหน้าสู่เกาะหลีเป๊ะโดยเรือเร็ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที สูดลมหายใจสะอาดให้ฉ่ำปอดและรับภาพบรรยากาศธรรมชาติสวยงามกันแบบเต็มอิ่ม

*หากอยู่ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว ตารางเดินเรือสำหรับท่าเรือปากบารา – เกาะหลีเป๊ะ จะมี 2 เวลา คือ 11:30 น. และ 13:30 น. เพื่อความปลอดภัยและคุ้มค่ากับนักท่องเที่ยวมากที่สุด*

12:15 น. หลังจากเดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล สถานที่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘มรดกแห่งอาเซียน’ ในปี พ.ศ. 2525 ทัวร์จะให้เวลาได้เดินชมบรรยากาศและถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจประมาณ 15-20 นาที ส่วนตัวขอแนะนำจุดที่เรียกว่า ไฮไลท์ของเกาะหลีเป๊ะ มาแล้วต้องไม่พลาด ได้แก่

  • อ่าวตะโละวาว เกาะตะรุเตา มีหินซีกขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลใส
  • อ่าวสน อ่าวสวยงาม สัมผัสหาดทรายสลับกับหาดหิน
  • อ่าวพันเตมะเลกา ที่สุดของคำนิยาม ‘หาดสวยน้ำใส’ แบบไม่ต้องมีคำบรรยายให้มากความ เพราะน้ำที่ใสสะอาดสีครามผสานมรกตตัดกับหาดทรายขาวละเอียดคล้ายแป้งมีดงมะพร้าวร่มรื่นนี่แหละคือ ภาพแห่งสวรรค์ที่แท้จริง

12:45 น. แวะเกาะไข่ถ่ายรูปประมาณ 15 นาที (อยู่ระหว่างท่าเทียบเรือปากบารา กับ เกาะหลีเป๊ะ) ไฮไลต์ของเกาะนี้คือ ความงดงามของท้องทะเลธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ขั้นสุด แหลมติดชายฝั่งจุดหนึ่งเป็นหน้าผาริมทะเลที่มีซุ้มหินธรรมชาติสวยงาม นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า คู่รักที่เดินลอดใต้ซุ้มนี้จะสุขสมหวังถึงขั้นได้แต่งงานกันด้วยล่ะ เพราะงั้นหากมาเกาะไข่กับคู่รัก อย่าลืมเดินแวะมาลอดใต้ซุ้มนี้กัน

13:45 น. หลังจากนั้นก็จะกลับมาที่เกาะหลีเป๊ะกันอีกครั้ง เมื่อถึงท่าเรือบนเกาะหลีเป๊ะพนักงานโรงแรมจะเตรียมพร้อมมายืนรอคุณอยู่ที่นั่นและถือป้ายชื่อโรงแรมไว้ เพื่อเตรียมพาคุณไปพักผ่อนหย่อนใจและทำธุระส่วนตัวในที่พักที่ได้จองไว้ก่อนจะถึงเวลาไปท่องโลกแห่งท้องทะเลกันต่อไป

*รีวิวนี้ขอแนะนำที่พัก ‘ศลิษา รีสอร์ท’ ที่ตั้งอยู่บนหาดซันไรส์ บริเวณริมหน้าหาด พร้อมรับบรรยากาศสวยงามจากธรรมชาติได้แบบเต็มอิ่ม เหมาะกับรับลมและแสงแดดอันอบอุ่น รวมถึงภาพหาดสวยน้ำใสของเกาะหลีเป๊ะได้จากทุกมุมของที่พัก ที่สำคัญ กิจกรรมที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ คุ้มแน่นอน ทั้งดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และพายเรือแคนู*

จากนั้นพอได้พักผ่อนส่วนตัวถึงเวลาประมาณ 16:30 น. – 18:00 น. พนักงานของทางไฮหลีเป๊ะจะโทรมาสอบถาม เพื่อยืนยันเวลาก่อนพาไป ‘ทริปดำน้ำตื้น’ เรื่องความปลอดภัยหายห่วงได้เลย เพราะที่นี่เขามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกขั้นตอนและอุปกรณ์เซฟอย่างดี รวมถึงตรวจเช็คสภาพอากาศและกระแสน้ำก่อนเที่ยวทุกครั้ง

เกาะหลีเป๊ะรีวิววันที่สอง : เกาะอาดัง – เกาะราวี – เกาะหินงาม – แม่น้ำจาบัง

ทริปดำน้ำเกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหินงาม และแม่น้ำจาบัง เริ่มตั้งแต่เช้าอันสดใส พนักงานของทางที่พักจะมารับคุณจากรีสอร์ทประมาณ 9:00 – 9:30 น. เพื่อไปดำน้ำท่องโลกท้องทะเลอันดามัน ณ เกาะเหล่านี้ ในเวลาประมาณ 9.30 – 14.30 น.

10.00 น. เราจะเริ่มดำน้ำที่แม่น้ำจาบังเป็นจุดแรก ที่สุดของแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์สัมผัสความงดงามจากดาวขนนก, ฟองน้ำหลากสี และปะการังอ่อนกว่า 7 สี สำหรับนักดำน้ำมืออาชีพอาจจะรู้สึกว่า เป็นความงามที่เห็นได้ทั่วไป แต่สำหรับนักท่องเที่ยวและมือใหม่หัดดำน้ำการได้เห็นปะการังอ่อนในน้ำตื้นนี้ถือเป็นสวรรค์ที่แท้จริง เพราะปกติแล้วปะการังอ่อนจะพบได้ในน้ำลึกเท่านั้น แต่ด้วยความที่กระแสน้ำแห่งนี้ค่อนข้างไหลเร็วเลยจำเป็นต้องใช้เชือก เพื่อความปลอดภัยในการรักษาสมดุลขณะดำน้ำด้วยนะ บอกเลยว่า แค่เห็นบรรยากาศก็เหมือนมีเพลง A Whole New World อยู่ในหัวเลยล่ะ

จากนั้นเราไปต่อกันที่ ‘เกาะหินงาม’ หลายคนมักจะเข้าใจว่า ณ ที่แห่งนี้เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่มีเพียงหินทั่วไปที่อาจพบได้ตามชายหาดเท่านั้น แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า โขดหินเป็นทรงกลมวางเรียงรายอยู่บนชายหาดอย่างสวยงามราวกับภาพวาด ยิ่งสัมผัสกับน้ำและแสงแดดก็จะยิ่งส่องประกายเป็นสีดำชวนพิศวง แถมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหินบนเกาะหินงามด้วยนะว่า หินทุกก้อนล้วนสะท้อนเป็นสีดำจากคำสาปของวิญญาณผู้พิทักษ์เกาะที่เรียกว่า ‘เจ้าพ่อตะรุเตา’ ล้วนเป็นทรัพย์สมบัติของ ณ ที่แห่งนี้เท่านั้น หากผู้ใดเอาหินออกไปก็จะเผชิญกับความหายนะ เพราะงั้นใครที่ไปเกาะหลีเป๊ะแล้วอยากให้ลองชวนแวะไปสัมผัสความอัศจรรย์ของหินเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

12:00 น. แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้บนเกาะราวี อิ่มท้องจากอาหารอร่อยแล้วยังอิ่มใจกับภาพความงามของธรรมชาติไปอีก

13:00 น. สัมผัสความสวยงามของ “เกาะราวี” อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ณ หาดทรายขาว หนึ่งในเกาะสวยงามที่คนเที่ยวเกาะหลีเป๊ะไม่ควรพลาดและเป็นหนึ่งในจุดที่ดีในการดำน้ำชมปะการังท้องทะเลอันดามัน ส่วนใหญ่แล้วปะการังที่นี่เป็นปะการังแข็ง เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังโบลเดอร์ และไมโครโคโนไฮดโนโฟรา ฯลฯ แถมมีโอกาสได้เห็นดอกไม้ทะเล หอยยักษ์ และปลาดอกไม้ทะเลด้วย คนรักทะเลต้องประทับใจไม่รู้ลืมและหากมีเวลาพอต้องอยากปักหมุดกลับมาอีกรอบแน่นอน

เพียงแค่นั้นยังไม่พอ ต่อมาทริปชมปะกาลังจะไปสัมผัสความงามของปะการังต่อที่เกาะยาง (เกาะใกล้เกาะราวี) แม้จะเป็นเกาะขนาดเล็ก แต่ด้วยความที่กระแสน้ำค่อนข้างปลอดภัย ทีมผู้เชี่ยวชาญเลยเปิดโอกาสให้คนรักทะเลอันดามันสามารถดำน้ำดูปะการังรอบเกาะได้อย่างอิสระภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่ปะการังที่พบจะมีทั้งปะการังแข็งและปะการังอ่อน เช่น ปะการังใบ ปะการังสมอง และปะการังเขากวาง ฯลฯ  แถมมีโอกาสเห็นหอยยักษ์ขนาดมหึมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน เที่ยวไทยแบบ Amazing Thailand กันไปเลย

สิ้นสุดทริปดำน้ำชมปะการัง 15:00 น. พนักงานจะพาทุกคนกลับไปยังที่พัก หากใครมีแพลนอื่นหรืออยากแวะไปไหนก็สามารถเที่ยวได้อย่างอิสระเลยล่ะ หรือต้องการความช่วยเหลือส่วนไหนสามารถแจ้งกับทีมไฮหลีเป๊ะได้ทันที /ถึงจะเที่ยวหนักขนาดนี้ แต่บอกเลยว่า คนส่วนใหญ่ที่เคยมาไม่มีเหนื่อยและจะรู้สึกว่า ทุกวินาทีที่ได้เที่ยวเกาะหลีเป๊ะมีความสุขและคุ้มค่าที่สุด

เกาะหลีเป๊ะรีวิววันที่สาม : เกาะหลีเป๊ะ – ท่าเรือปากบารา – ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่

หลังจากตื่นมารับบรรยากาศชมความงามของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องท้องทะเลในยามเช้าและทานอาหารกันเรียบร้อย ช่วงเวลาประมาณ 11:30 น. ก็ถึงเวลาจะต้องโบกมือลาเกาะหลีเป๊ะกันแล้ว แต่ก่อนจะเดินทางอีกครั้ง อย่าลืมตรวจสอบตั๋วเรือในหาดพัทยา เพื่อเดินทางด้วยเรือเร็วไปยังท่าเรือปากบารา ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง พนักงานจะคอยยืนเคียงข้างและพาทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ

13.00 น. ถึงท่าเรือปากบารา มองหาป้าย ‘ไฮ หลีเป๊ะ’ จะพบกับเจ้าหน้าที่รอดูแลคุณอยู่ที่หน้าอาคารท่าเรือปากบารา เตรียมเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่

14:30-15.30 น. เดินทางกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่อย่างปลอดภัย พนักงานจากไฮหลีเป๊ะ ยืนรอรับท่านที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จบทริปเกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืนอย่างสมบูรณ์

ร่วมสัมผัสกับความประทับใจเหมือนท่องโลกแห่งความฝันไปกับ ‘ไฮ หลีเป๊ะ’ ที่สุดของความคุ้มค่าตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ทั้งชมความงามบรรยากาศธรรมชาติ พาดำน้ำตื้น ว่ายน้ำในป่า พักผ่อนบนชายหาด และรับประทานอาหารกลางวันแบบไทยๆ สร้างความสุขและอิ่มใจไม่รู้เหนื่อยตลอดการเดินทาง การันตีเรื่องความปลอดภัยและความคุ้มค่าตลอดการเดินทาง โดยทีมผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่และมีประสบการณ์ดูแลทัวร์ตลอดหลายสิบปี สำหรับท่านใดที่อ่านรีวิวเกาะหลีเป๊ะแล้วกำลังสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

whats App : https://bit.ly/3Ohmqcp

เฟสบุ๊คเพจ : https://www.facebook.com/Hilipe

หมายเลขโทรศัพท์ : 061-4564888

Website : https://hilipe.com/

Shopping Cart